วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

English Grammar - Active Voice, Passive Voice



English Grammar - Active Voice, Passive Voice



ประโยค Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยา เช่น
John eats bread. (John ทานขนมปัง)
ประธานของประโยคนี้ คือ John ซึ่งเป็นผู้กระทำกริยา eats

ประโยค Passive Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำด้วยกริยา เช่น
Bread is eaten by John. (ขนมปังถูกทานโดย John)
ประธานของประโยคนี้ คือ Bread ซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำกริยา eats โดย John


เราจะใช้ประโยค Passive Voice แทน Active Voice
เมื่อเราต้องการ เน้นผู้ถูกกระทำหรือเมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ไม่ทราบว่าผู้กระทำเป็นผู้ใด เช่น 
เมื่อปากกาเราถูกขโมย เรามักจะพูดว่า 
My pen was stolen. (ปากกาของฉันถูกขโมยไปแล้ว) 
เราไม่นิยมพูดว่า A thief stole my pen. (ขโมยได้ขโมยปากกาของฉันไปแล้ว)


หลักในการเปลี่ยนประโยค Active Voice เป็น Passive Voice 
1. นำกรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานของประโยค Passive Voice เช่น
Active Voice : John eats bread.
=> Passive Voice : Bread is eaten by John.
2. เปลี่ยนคำกริยาของประโยค Active Voice เป็นช่องที่ 3 และจะต้องมี Verb to be อยู่หน้าคำกริยานั้นเสมอ
(จะใช้ Verb to be ตัวใด ขึ้นอยู่กับประธานของประโยค Passive Voice
และ Tense ของคำกริยาตัวเดิมใน Active Voice) เช่น
Active Voice : John eats bread.
=> Passive Voice : Bread is eaten by John.
*** ใช้ is eaten เพราะประธานของ Passive Voice เป็นนามนับไม่ได้ และคำกริยาของ Active Voice เป็นช่อง 1 (eats)
3. นำประธานของประโยค Active Voice ไปเป็นกรรมของประโยค Passive Voice โดยมีคำว่า by นำหน้า เช่น
Active Voice : John eats bread.
=> Passive Voice : Bread is eaten by John.
** ถ้าประธานของประโยค Active Voice เป็นคำสรรพนาม (Pronouns)
เมื่อเปลี่ยนไปเป็นกรรมของประโยค Passive Voice
จะต้องเปลี่ยนรูปเป็นกรรมตามไปด้วย เช่น
Active Voice : He ate bread.
=> Passive Voice : Bread was eaten by him.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น